สิ่งที่พวกเขาปฏิบัติต่อเราด้วย: ซีเนอริท สังกะสีและยาปฏิชีวนะต่อต้านสิวและสิว

 สิ่งที่พวกเขาปฏิบัติต่อเราด้วย: ซีเนอริท สังกะสีและยาปฏิชีวนะต่อต้านสิวและสิว

นักวิทยาศาสตร์พบว่าการหลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ส่งผลต่อหลักสูตรของ ครีมลดสิว

นักวิทยาศาสตร์ระบุปริมาณแอลกอฮอล์ที่ดีต่อสุขภาพสำหรับหัวใจ

ห้าอาการของภาวะสมองเสื่อมที่กำลังจะเกิดขึ้นที่มีชื่อว่า

ครีมหนักมีผลต่อการปรากฏตัวของสิวหรือไม่ซึ่งควรกลัวผื่นขึ้นก่อนอื่นผู้ชายหรือผู้หญิงและคนที่เป็นสิวควรเลิกเครื่องสำอางหรือไม่ Indicator.Ru กล่าว

โน้ตนี้อุทิศให้กับยายอดนิยมสำหรับผื่นที่ผิวหนัง Zinerit อย่างไรก็ตาม ก่อนดำเนินการกับเรื่องราวจริงเกี่ยวกับประสิทธิภาพและการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับยานี้ เราจะบอกคุณเกี่ยวกับสิวคืออะไร และอะไรที่สามารถนำไปสู่ลักษณะที่ปรากฏ หากคุณรู้ทั้งหมดนี้แล้ว โปรดเลื่อนไปที่ส่วน "จากอะไร จากอะไร"

ความไม่สมบูรณ์ที่ไม่เหมาะสม: ยีนต้องโทษทุกอย่าง?

ในทางวิทยาศาสตร์ สิวและสิวหรือสิวเรียกว่า "สิว" คำนี้มาจากรากศัพท์ภาษากรีก แปลว่า "ขอบ" "ดอก" หรือ "ความสูง" สิวเกิดขึ้นเมื่อผิวมีความมัน เมื่อรูขุมขนอุดตันด้วยเซลล์เคราติไนซ์และความมัน และเกิดการอักเสบ อนิจจาสาเหตุของปัญหาดังกล่าวมักเกิดจากพันธุกรรม (แพทย์ผิวหนังชาวอังกฤษชี้ให้เห็นในงานของพวกเขา): หากญาติสนิทของบุคคลที่ได้รับความทุกข์ทรมานจากปัญหาที่คล้ายคลึงกันในวัยหนุ่มไม่น่าจะเป็นไปได้ที่เขาจะสามารถหลีกเลี่ยงสิ่งนี้ได้ การเปลี่ยนแปลงในร่างกายและการผลิตฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้นในช่วงวัยแรกรุ่นอาจทำให้เกิดการผลิตไขมันส่วนเกินและนำไปสู่สิวและสิวได้

ผื่นแดงและการอักเสบ (มีเลือดคั่ง), ตุ่มหนอง (ตุ่มหนอง), สิวหัวดำและสิวหัวขาว (comedones) เป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิดมากสำหรับวัยรุ่นและคนหนุ่มสาวจำนวนมาก ในกรณีที่รุนแรงโดยเฉพาะอย่างยิ่งก้อนจะรวมกันทำให้เกิดฝีที่น่ากลัวซึ่งจำเป็นต้องเปิดออก แน่นอน ในกรณีเช่นนี้ คุณไม่สามารถทำได้โดยไม่ได้รับความช่วยเหลือจากแพทย์ และแพทย์คนนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นแพทย์ผิวหนังเสมอไป สิวและสิวอักเสบจำนวนมากอาจเป็นสัญญาณภายนอกของความผิดปกติที่อันตรายกว่าบางอย่าง เช่น ความไม่สมดุลของฮอร์โมนที่เกิดจากความเสียหายต่อรังไข่ ต่อมหมวกไต หรือต่อมอื่นๆ

อ่านเพิ่มเติม

สาเหตุใหม่ของการเกิดสิวและสิวได้รับการระบุ

ยา

สิวอาจเกี่ยวข้องกับการผลิตฮอร์โมนเพศชายมากเกินไป (เช่น เทสโทสเตอโรน) ที่เพิ่มการผลิตไขมัน สิ่งนี้คุกคามไม่เพียงแต่กับผู้ชายเท่านั้น เพราะแม้แต่ร่างกายของผู้หญิงที่แข็งแรงก็ยังผลิตฮอร์โมนเพศชายอย่างต่อเนื่อง (และในทางกลับกัน) ในปริมาณที่น้อยกว่า ในกรณีเช่นนี้ จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจากแพทย์ต่อมไร้ท่อ ซึ่งต้องสั่งจ่ายยาบางชนิด (ตามที่นักวิทยาศาสตร์จากประเทศสหรัฐอเมริกาและไนจีเรีย บางครั้งสตรีได้รับความช่วยเหลือจากยาคุมกำเนิด) หรืออ้างถึงการรักษาต่อไป

บ่อยครั้งที่ผื่นดังกล่าวในช่วงวัยแรกรุ่นไม่เกี่ยวข้องกับภัยคุกคามต่อชีวิตและสุขภาพ คนส่วนใหญ่มองว่าสิวและสิวเป็นข้อบกพร่องด้านเครื่องสำอางที่ร้ายแรง เพราะแม้หลังจากที่ผื่นหายเอง รอยที่คล้ายกับรอยไข้ทรพิษมักยังคงอยู่บนผิวหนัง

จากการติดเชื้อสู่น้ำนม

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าความเครียดยังสามารถทำให้เกิดผลที่ไม่พึงประสงค์ดังกล่าวได้ ในเวลาเดียวกัน ผื่นที่รุนแรงซึ่งตามที่ผู้ป่วยทำให้พวกเขาน่าเกลียดและกีดกันพวกเขาจากความน่าดึงดูดใจสามารถนำไปสู่ภาวะซึมเศร้า (นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยน็อตติงแฮมเขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้) และปัญหาทางจิตอื่น ๆ มันกลายเป็นวงจรอุบาทว์เกือบ: ความเครียดกระตุ้นให้เกิดผื่นและผื่นอีกครั้งทำให้ผู้ป่วยกังวล สุดท้ายสำหรับบางคน สิวไม่ได้หายไปตามอายุ และนักวิทยาศาสตร์ก็ยังไม่สามารถตอบได้เสมอว่าทำไมสิ่งนี้จึงเกิดขึ้นในแต่ละกรณี

อ่านเพิ่มเติม

พวกเขาปฏิบัติต่อเราอย่างไร: เป็นไปได้ไหมที่จะสงบสติอารมณ์ด้วยความช่วยเหลือของ ครีมรักษาสิว Novo-Passit

ยา

แบคทีเรียยังมีส่วนช่วยในกระบวนการอักเสบบนผิวหนัง ซึ่งเป็นเหตุว่าทำไมยาปฏิชีวนะจึงถูกเติมเข้าไปในวิธีการรักษาสิวหลายชนิด และหากเป็นสิวระดับปานกลางถึงรุนแรง ไม่ควรใช้ยาเหล่านี้กับผิวหนัง แต่ควรรับประทาน (ตามคำแนะนำของแพทย์) จาก Fort Belvoir รัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา ) Propionibacterium acnes แบคทีเรียที่สามารถทำให้เกิดสิวได้หากมันเติบโตยากเกินไปบนผิวหนัง ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่สำคัญสำหรับการเกิดสิว นักวิทยาศาสตร์พบว่ามันสามารถโต้ตอบกับโปรตีน TLR (จากตัวรับโทรเหมือนภาษาอังกฤษ - ตัวรับเหมือนโทร; คำนี้มาจากภาษาเยอรมัน "วิเศษ") ที่เกี่ยวข้องกับภูมิคุ้มกัน โปรตีนเหล่านี้พบได้บนพื้นผิวของเซลล์ และการกระตุ้นของพวกมันจะกระตุ้นกระบวนการอักเสบในร่างกาย Propionibacterium Acnes ยังช่วยเพิ่มการผลิตสารที่กระตุ้นการก่อตัวของ comedones จริงอยู่ ผลกระทบเหล่านี้เกิดขึ้นกับเซลล์ผิวหนังของมนุษย์ภายนอกร่างกาย ดังนั้น ความเป็นไปได้ที่ทุกสิ่งในร่างกายจะทำงานแตกต่างกันออกไป